เปิดโอกาสการลงทุนด้านสภาพอากาศของจีนในภาคหลัก

การเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจที่เป็นศูนย์สุทธิ (Net-zero economy) ไม่เพียงแค่เป็นการรับมือกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความยั่งยืนและความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาว สำหรับจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก กำลังมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงภาคส่วนที่มีผลกระทบทั้งต่อการปล่อยก๊าซและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ภาคพลังงานและการเกษตรเป็นภาคส่วนที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยการลดการปล่อยมีเทนถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในเดือนธันวาคม 2024, 2024 China Sustainable Investment Forum (SIF) ซึ่งจัดโดย Climate Bonds Initiative และ SynTao Green Finance ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้เสียจากหน่วยงานรัฐบาล ธนาคาร สถาบันวิจัย และผู้ให้บริการด้าน ESG เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโอกาสในการลงทุนในภาคพลังงานและการเกษตร ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีการปล่อยก๊าซมีเทนสูง ภาคเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการลดการปล่อยมีเทนและช่วยให้จีนก้าวไปสู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ทำไมต้องมุ่งเน้นที่การปล่อยมีเทน?
มีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการทำลายสิ่งแวดล้อมมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์หลายเท่าในระยะเวลาสั้นๆ โดยภาคพลังงานปล่อยมีเทนประมาณ 35% ของการปล่อยมีเทนทั่วโลก ซึ่งมาจากการผลิตพลังงานจากฟอสซิลและการทำเหมืองถ่านหิน ขณะที่ภาคการเกษตรปล่อยมีเทนประมาณ 40% จากกิจกรรมการเลี้ยงสัตว์ การทำนา และกิจกรรมทางการเกษตรอื่นๆ การลดการปล่อยมีเทนจากทั้งสองภาคส่วนนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญในการลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและบรรลุเป้าหมายตาม ข้อตกลงปารีส

จีนได้เริ่มใช้กฎหมายและกฎระเบียบในการควบคุมการปล่อยมีเทนแล้ว แต่การก้าวไปข้างหน้าต้องการความพยายามและเงินทุนเพิ่มเติม งานสัมมนาเน้นย้ำว่าจีนมีทั้งทุนที่จำเป็น วิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย และเทคโนโลยีที่สามารถช่วยในการลดการปล่อยมีเทน แต่ยังคงมีช่องว่างด้านการลงทุนที่ต้องการการสนับสนุนจากภาคเอกชน

การเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลง: กุญแจสู่การเร่งการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงของภาคพลังงานและการเกษตรต้องการการลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะ การเงินการเปลี่ยนแปลง (Transition Finance) ซึ่งได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยคาร์บอนสูง ปัจจุบัน พันธบัตรสีเขียว และ พันธบัตรการเปลี่ยนแปลง ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักในการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ในคำกล่าวสำคัญของ Sean Kidney, CEO ของ Climate Bonds Initiative, ได้เน้นว่า มีทุนและความรู้เพียงพอที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในภาคพลังงานและการเกษตร แต่ยังคงมีช่องว่างด้านการลงทุนที่ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อนำทุนจากภาคเอกชนมาช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในภาคเหล่านี้

Wenhong Xie หัวหน้าฝ่ายโครงการจีนของ Climate Bonds กล่าวว่า การเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่หัวข้อที่ถูกมองว่าเป็นความขัดแย้งอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจในตลาดการลงทุน โดยเฉพาะการลดการปล่อยมีเทน ซึ่งกำลังดึงดูดนักลงทุนไม่เพียงแค่เพื่อลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

การลดการปล่อยมีเทนในภาคการเกษตร: โอกาสสำคัญ
การเกษตรในจีนมีบทบาทสำคัญในการผลิตอาหารสำหรับประชากร 1.4 พันล้านคน แต่ก็เป็นภาคที่ปล่อยมีเทนมากและเสี่ยงต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ งานสัมมนาครั้งนี้ได้เน้นย้ำว่า ระบบการเกษตรและอาหาร ต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในขณะเดียวกันก็ต้องรับประกันความมั่นคงทางอาหารและความยั่งยืน

หนึ่งในโอกาสสำคัญในการลดการปล่อยมีเทนในภาคการเกษตรคือการปรับปรุงวิธีการทำฟาร์ม เช่น การจัดการปศุสัตว์ที่ดีขึ้น การจัดการนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และนวัตกรรมในการบำบัดมูลสัตว์ การเกษตรยังมีโอกาสในการพัฒนาและนำไปสู่ประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

Shaoxin Li, หัวหน้าฝ่ายการเปลี่ยนแปลงเกษตรกรรมของ Climate Bonds, กล่าวว่าภาคการเกษตรของจีนยังมีศักยภาพมากมาย แต่การเงินยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ ทุนสาธารณะเป็นแหล่งสนับสนุนหลักในภาคนี้ แต่ไม่เพียงพอที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น การพัฒนา มาตรฐานพันธบัตรสีเขียว และโมเดลทางการเงินใหม่ ๆ เป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้การเกษตรเดินหน้าสู่ความยั่งยืน

แนวโน้มในอนาคตและบทบาทของการลงทุน
การเปลี่ยนแปลงในภาคพลังงานและการเกษตรของจีนต้องการมากกว่าแค่การสนับสนุนจากภาครัฐ มันต้องการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ความพยายามร่วมกันในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงนโยบายและการลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม งานสัมมนาครั้งนี้ได้สรุปด้วยการเรียกร้องให้นักลงทุนตระ

อ้างอิง ซ : Climate Bonds Blog (climatebonds.net)